การติดตั้งโซล่าเซลล์ ออนกริด เปรียบเทียบ ติดตั้งโซล่าเซลล์ ระบบออฟกริด และไฮบริด
ติดตั้งโซล่าเซลล์ ออนกริด on grid
ติดตั้งโซล่าเซลล์ ออนกริด คือ ระบบโซล่าเซลล์ ที่มีการเชื่อมขนานสายไฟกับระบบจ่ายไฟของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (แม้ว่าจะผลิตเพื่อใช้เอง แต่ไม่ได้ขายไฟคืนให้การไฟฟ้าก็ตาม ถือว่าเป็นระบบออนกริด (on grid) แล้ว)
ข้อดีของติดตั้งโซล่าเซลล์ ออนกริด คือ
- บ้านพักอาศัยจะมีพลังงานไฟฟ้าใช้ได้อย่างเพียงพอแน่นอน ไม่ว่าระบบโซล่าเซลล์จะได้รับแสงแดดมากน้อยเพียงใด ในช่วงฝนตก หรือแดดจัดก็ตาม เพราะไฟฟ้าจากระบบของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย จะจ่ายไฟฟ้าเข้ามาเสริมพลังงานจากระบบโซล่าเซลล์ สำหรับส่วนที่ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ตลอดเวลา
- ถ้าระบบโซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้าได้เกินความต้องการใช้ในบ้าน หากเจ้าของบ้านดำเนินการยื่นขายไฟกับการไฟฟ้าฯ ไว้แล้ว ย่อมสามารถขายไฟฟ้าที่ผลิตได้จากการติดโซล่าเซลล์ คืนเข้าระบบของการไฟฟ้าฯได้
- อุปกรณ์ต่างๆ ในการติดตั้งโซล่าเซลล์ on grid บ้าน มีไม่มาก ทำให้ค่าซ่อมบำรุงต่ำ
ข้อเสียของระบบติดตั้งโซล่าเซลล์ ออนกริด คือ
- ถ้าไฟจากการไฟฟ้าดับ ระบบโซล่าเซลล์ on grid ก็จะหยุดทำงานไปด้วย
- การเชื่อมขนานระบบโซล่าเซลล์กับระบบของการไฟฟ้าฯ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่การไฟฟ้าฯ กำหนด และอาจจะมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบของการไฟฟ้าฯ อีกด้วย
ติดตั้งโซล่าเซลล์ ระบบออฟกริด คือ ระบบโซล่าเซลล์ที่ไม่เชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้าฯ โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จากการติดโซล่าเซลล์จะนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทันที และมีบางส่วนที่เหลือจากการใช้งาน จึงจะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และนำมาใช้เมื่อเราเปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยปริมาณความจุของแบตเตอรี่ (จำนวนลูกแบตเตอรี่) จะขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการใช้พลังงานของบ้านแต่ละหลัง
ข้อดีของการติดตั้งโซล่าเซลล์ ระบบออฟกริด คือ
- ค่าใช้จ่ายโดยรวมประหยัดกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่การไฟฟ้าฯ จะต้องขยายเขตการเดินสายไฟฟ้าเป็นระยะทางไกลๆ
- ไม่มีรายจ่ายค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายให้การไฟฟ้าเป็นรายเดือน ทุกๆเดือน
- ในกรณีที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไฟฟ้าอาจจะ ตก หรือ ดับ อยู่บ่อยครั้ง การใช้ติดตั้งโซล่าเซลล์ ระบบออฟกริด ช่วยทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านไม่ได้รับความเสียหายจากไฟตก ไฟดับ ที่เกิดขึ้นนี้
ข้อเสีย
- ในแง่การลงทุนส่วนบุคคล การติดตั้งโซล่าเซลล์ ระบบออฟกริดมีอุปกรณ์มากกว่า ติดตั้งโซล่าเซลล์ on grid ทำให้มีค่าใช้จ่ายด้านการติดตั้งโซล่าเซลล์ ระบบออฟกริด สูงกว่า ระบบออนกริด เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านแบตเตอรี่
- หากไม่มีแดดหรือมีฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน พลังงานที่สะสมไว้ในแบตเตอรี่อาจจะหมดได้
ติดตั้งโซล่าเซลล์ ไฮบริด คือระบบโซล่าเซลล์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่โดยรวมข้อดีของโซล่าเซลล์ออนกริด กับโซล่าเซลล์ระบบออฟกริด กล่าวคือ การติดตั้งโซล่าเซลล์ ไฮบริด จะเชื่อมต่อระบบโซล่าเซลล์ กับระบบสายส่งของการไฟฟ้า โดยในช่วงกลางวัน บ้านก็จะใช้พลังงานจากโซล่าเซลล์เป็นหลัก หากมีพลังงานเหลือ ก็จะกักเก็บไว้ในแบตเตอรี่ แต่หากพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซล่าเซลล์ไม่เพียงพอ ระบบโซล่าเซลล์จะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ก่อน และหากไม่เพียงพอ จึงจะดึงกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ มาใช้สำหรับส่วนที่ขาด
ข้อดีของการติดตั้งโซล่าเซลล์ ไฮบริด คือ
- ระบบไฟฟ้าจะมีความเสถียรมาก เพราะเท่ากับว่า บ้านมีแหล่งจ่ายไฟฟ้าทั้งหมด 3 แหล่ง คือ ระบบโซล่าเซลล์ + แบตเตอรี่ + ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ) เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
- สามารถบริหารแหล่งจ่ายพลังงาน เพื่อใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานที่ถูกที่สุดได้ (เช่น ตอนกลางวันไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้ามีราคาแพง เราสามารถตั้งให้บ้านใช้ไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์หรือแบตเตอรี่ก่อนใช้ไฟจากการไฟฟ้า แต่ถ้าเป็นวันหยุดหรือช่วงเวลาที่ไฟฟ้าการไฟฟ้าราคาถูกก็จะปล่อยให้มีการชาร์ตไฟฟ้าให้เต็มในแบตเตอรี่ได้ด้วย เป็นต้น)
- เป็นระบบไฟสำรอง ทำให้บ้านยังคงมีไฟฟ้าใช้ แม้เกิดไฟดับ
ข้อเสีย
- การติดตั้งโซล่าเซลล์ ไฮบริด มีอุปกรณ์มากกว่าระบบอื่น และมีความซับซ้อน ใช้เงินลงทุนและมีค่าซ่อมบำรุงสูง
- อินเวอร์เตอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากการไฟฟ้ายังมีน้อยและราคายังค่อนข้างสูง
Ref:
อินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์มีแบบไหนบ้าง?
อินเวอร์เตอร์ก็เหมือนกับสมองในระบบโซลาร์เซลล์ มาเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยกันได้เลยที่นี่ !
อุปกรณ์สำคัญสำหรับการติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ขาดไม่ได้เลย คือ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) เป็นอุปกรณ์ที่ไว้สำหรับแปลงพลังงานไฟฟ้าจากกระแสตรง (DC) ที่ผลิตได้จากแผงโซล่าเซลล์ แบตเตอรี่ หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง แปลงให้เป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เพื่อให้สามารถจ่ายไฟใช้ได้กับอุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับที่อยู่ในบ้านหรืออาคารของท่านได้ปลอดภัย
กริดไทน์อินเวอร์เตอร์ (Grid Tile Inverter) หรือ ออนกริดอินเวอร์เตอร์ (On Grid Inverter) มีหน้าที่ในการแปลงพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ให้กลายมาเป็นไฟที่สามารถทำการจ่ายเข้าสู่ตัวบ้านหรืออาคารได้ โดยเชื่อมเข้ากับไฟของการไฟฟ้า หากช่วงแดดอ่อนหรือไม่มีแสงแดด อินเวอร์เตอร์จะปรับไปใช้ไฟจากการไฟฟ้ามาจ่ายแทนโดยอัตโนมัติ
ไมโครอินเวอร์เตอร์ (Micro Inverter) เป็นอินเวอร์เตอร์ขนาดเล็ก ที่สามารถนำมาใช้ได้กับทั้งระบบออนกริดและออฟกริด หลักการทำงานเหมือนกริดไทน์อินเวอร์เตอร์ แตกต่างที่ติดตั้งกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์ 1 ตัวต่อ 1 แผง และเอาท์พุท (Output ) ที่ออกมาจากอินเวอร์เตอร์ชนิดนี้จะเป็นไฟฟ้าแบบ AC ที่สามารถนำไปต่อใช้งานได้เลย
เพียวไซน์เวฟอินเวอร์เตอร์ (Pure Sine Wave Inverter) เป็นอินเวอร์เตอร์ที่ช่วยแปลงกระแสไฟจากแบตเตอรี่ให้สามารถใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ รวมถึงเหมาะสำหรับสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ว่าอยู่ไกลจากบ้าน โดยสามารถใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งจ่ายไฟได้ เช่น ร้านขายของ ร้านขายผลไม้ คนที่เดินทางไกลที่ต้องใช้ไฟระหว่างเดินทาง หรือต้องตั้งแคมป์นอนค้างแรม
ไฮบริดอินเวอร์เตอร์ (Hybrid) เป็นอินเวอร์เตอร์ที่นำเอาคุณสมบัติของระบบออนกริดและออฟกริดมาใช้งานรวมกันได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น
ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาแบบไหนได้บ้าง ?
การติดตั้งว่ากันโดยหลักการง่าย แบ่งเป็น 3 แบบ คือ
1. แบบขั้นยึดกับจุดยึดเดิมของหลังคา (สำหรับหลังคามีน๊อตยึดอยู่แล้ว)
2. แบบเจาะกระเบื้องหลังคา
3. แบบสอดใต้กระเบื้อง
การติดตั้งแผงบนหลังคาประเภทต่างๆ ได้แก่
1.หลังคาซีแพคโมเนีย ใช้เทคนิคการสอด โดยจะใช้อุปกรณ์เฉพาะในการสอดเข้าไปใต้กระเบื้อง เพื่อเข้าไปล็อคกับคานหรือจันทัน ดังนั้นจะไม่มีการเจาะหลังคาใดๆ จึงไม่ต้องกังวลเรื่อการรั่วซึมแน่นอน
2.หลังคาเมทัลซีท ใช้การเปลี่ยนน็อต โดยถอดน็อตตัวเก่าบนหลังคาของลูกค้าออก แล้วใช้ขายึดใส่ลงไปแทนน็อตตัวเดิม
3.หลังคาลอนคู่ ใช้เทคนิคเดียวกันกับเมทัลซีท ตือการเปลี่ยนน็อต โดยถอดน็อตตัวเก่าบนหลังคาออก แล้วใช้ขายึดตัว Z ใส่ลงไปแทนน็อตตัวเดิม
4.บนพื้นปูนหรือบนดานฟ้า ใช้การต่อโครงสร้างเหล็กเพื่อวางแผง และใช้โครงสร้างเหล็กทำเป็นฐานรองรับแผงโซล่าเซลล์
5.บนพื้นปูดิน ใช้เทคนิคการเดียวกับบนพื้นปูนต่อโครงสร้างเหล็กเพื่อวางแผง ยึดกับพื้นที่ราบ
สรุป: หลังคาทุกประเภทสามารถติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ได้
เพราะหลังคาเป็นส่วนที่รับแรงน้อยมาก จุดรับแรงที่แท้จริงก็คือ ตัวแปรหลังคาที่อยู่ภายใน ซึ่งจากผลตรวจสอบเป็นประจำมีดังนี้
- หลังคาอายุไม่เกิน 10 ปี มักไม่ค่อยมีปัญหา
- หลังคาที่ต้องตรวจสอบมากๆ คือแปไม้
- เช็คโครงสร้างภายใต้หลังคาว่าอยู่ในสภาพที่ดี โครงสร้างที่แย่ จะส่งผลต่อกระเบื้องหลังคาได้ด้วย หลังคาเรียงกันเป็นคลื่น ไม่สม่ำเสมอ ตัวกระเบื้องแตกเป็นรอย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าโครงสร้างที่รองรับมีปัญหา
- หลังคา Metal sheet มักไม่ค่อยมีปัญหา เนื่องจากอายุการใช้งานยังไม่เยอะ และตัวแผ่น Metal sheet ค่อนข้างเบา
- อุปกรณ์แผงโซล่าที่ติดตั้งบนหลังคา จะมีโหลดประมาณ 10kg ต่อตารางเมตร
การพิจารณา ดูโครงสร้างเป็นหลักสำคัญว่ารับแรงได้หรือไม่ จะต้องตรวจสอบโดยวิศวกรโครงสร้างเท่านั้น ถึงจะแน่ใจว่าติดตั้งได้จริง
CR.http://www.extra-solar.com/b/59